วันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

AZURA มรดกมรณะ (แจ่ม อารมณ์ดี)

 นิยายวิทยาศาสตร์แนวรักโรแมนติก ดราม่า ลึกลับ

.
AZURA มรดกมรณะ (แจ่ม อารมณ์ดี)



.
แสงไฟสลัวจากตึกสูงของโรงพยาบาลส่องสว่างท่ามกลางความมืดมิดของราตรี บ่งบอกถึงการต่อสู้ของชีวิตที่ไม่เคยหลับใหล ภายในห้องพักผู้ป่วยรวม กลิ่นแอลกอฮอล์ลอยคละคลุ้งปะปนกับกลิ่นยาฆ่าเชื้อ เสียงเครื่องช่วยหายใจดังผสานกับเสียงครวญครางของผู้ป่วย สร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความกดดัน
หมอธาร ศัลยแพทย์หนุ่มไฟแรง เพิ่งเสร็จสิ้นการผ่าตัดยาวนานกว่า 8 ชั่วโมง เหงื่อเม็ดเล็กผุดพรายทั่วใบหน้าคมคาย แววตาอ่อนล้าแต่แฝงไปด้วยความมุ่งมั่น เขาถอดหน้ากากอนามัยออก เผยให้เห็นรอยยิ้มบางเบาที่มอบให้กับพยาบาลสาวสวย "คนไข้เป็นไงบ้างครับ พยาบาลริตา"
“คนไข้ปลอดภัยแล้วค่ะ ฝีมือคุณหมอเหมือนเดิมเลยนะคะ” ริตา พยาบาลสาวพูดด้วยน้ำเสียงชื่นชม แววตาเป็นประกายที่มองหมอหนุ่มไม่ได้บ่งบอกถึงแค่ความชื่นชมในหน้าที่การงาน
“หน้าที่ครับ ผมขอตัวไปดูคนไข้คนอื่นๆ ก่อนนะครับ” ธารตอบกลับ ก่อนจะขอตัว ปล่อยให้ริตามองตามด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน
เบื้องหลังรอยยิ้มแสนอบอุ่นที่ธารมอบให้กับคนไข้และเพื่อนร่วมงาน มีเพียงความว่างเปล่า ในหัวใจของเขามีเพียงภาพของ "ใยไหม" แฟนสาวที่กำลังนอนรอความตายอยู่ที่ห้องไอซียูชั้นบนสุด เธอป่วยเป็นโรคประหลาดที่แม้แต่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็วินิจฉัยไม่ได้ ร่างกายของเธอกำลังถูกทำลายอย่างช้าๆ
"หมอทำดีที่สุดแล้ว แต่โรคนี้มันร้ายแรง โอกาสรอดมีน้อยมาก" คำพูดของหมอเจ้าของไข้ดังก้องอยู่ในหัวของธารซ้ำๆ แต่เขาก็ไม่เคยคิดจะยอมแพ้
ธารใช้เวลาหลังเลิกงานทุกวัน แอบเข้าไปในห้องแลปเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ในโรงพยาบาล เขาใช้ความรู้ทางการแพทย์ทั้งหมดที่สั่งสมมา เพื่อพัฒนายาที่จะสามารถรักษาใยไหมได้
"ธาร นายพักบ้างเถอะ ทำงานหนักแบบนี้ร่างกายจะแย่เอา" นที เพื่อนสนิทที่คอยช่วยเหลือธารมาตลอดเอ่ยเตือนด้วยความเป็นห่วง
"ฉันไม่เป็นไรหรอก นที ฉันต้องช่วยใยไหมให้ได้" ธารตอบ สายตามุ่งมั่นอยู่กับขวดทดลองมากมาย
หลายเดือนผ่านไป ในที่สุด ยารักษาโรคลึกลับที่ธารทุ่มเทก็ใกล้สมบูรณ์ แต่ขั้นตอนสุดท้าย คือการทดลองกับมนุษย์ ซึ่งมันอันตรายเกินกว่าที่เขาจะยอมให้ใครรับความเสี่ยงนี้
"ฉันจะทดลองกับตัวเอง" ธารบอกกับนที เสียงหนักแน่น
“นายบ้าไปแล้ว! มันอันตรายเกินไป นายอาจจะตายได้” นทียื่นมือมาคว้าแขนธารไว้แน่น
“แต่ถ้าฉันไม่ทำ ใยไหมก็ต้องตายอยู่ดี”
ธารปัดมือนทีออกเบาๆ ก่อนจะเดินไปยังเตียง และฉีดยาเข้าร่างกายของตัวเองทันที ความร้อนแล่นพล่านไปทั่วร่าง ทุกอย่างรอบตัวพร่าเลือน ก่อนที่สติของเขาจะดับวูบไป
เสียงเครื่องวัดชีพจรดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ปลุกให้ธารลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เขาพบว่าตัวเองอยู่ในห้องพักผู้ป่วยพิเศษ ข้างๆ กันนั้นมีนที และใยไหมที่นั่งมองเขาด้วยความเป็นห่วง
“ธาร! นายฟื้นแล้ว ” ใยไหมโผเข้ากอดธารด้วยความดีใจ
"นายหมดสติไปสามวัน หลังจากฉีดยาเข้าไป” นทีบอก
ธารพยักหน้ารับรู้ สายตายังคงจ้องมองใยไหม ทันใดนั้น เขาก็เห็นภาพร่างกายภายในของเธออย่างชัดเจน ราวกับภาพเอกซเรย์ เขาเห็นความอ่อนแอของอวัยวะ เห็นความเจ็บปวดที่เธอพยายามอดทน
“ธาร… นายเป็นอะไรรึเปล่า” ใยไหมถามด้วยความสงสัย
“ฉัน… ฉันเห็นโรคของเธอ”
นทีและใยไหมต่างเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
พลังพิเศษที่ธารได้รับจากยาที่เขาคิดค้นขึ้นมา ทำให้เขามองเห็นความเจ็บป่วยของผู้คนได้โดยไม่ต้องสัมผัส เขาเห็นโรคร้ายที่ซ่อนอยู่ภายใน เห็นความเจ็บปวดที่แม้แต่ผู้ป่วยเองก็อธิบายไม่ได้
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ชีวิตของธารก็เปลี่ยนไปตลอดกาล เขากลายเป็นที่รู้จักในนาม "หมอมือเอก" ผู้รักษาโรคได้อย่างแม่นยำราวกับมีเวทมนตร์ ห้องตรวจของเขาเต็มไปด้วยผู้ป่วยจากทั่วสารทิศ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐี ยาจก หรือแม้กระทั่งคนในแวดวงไฮโซ
ทุกคนต่างต้องการโอกาสในการมีชีวิตอยู่ต่อไป และธารก็เป็นเพียงคนเดียวที่มอบโอกาสนั้นให้กับพวกเขาได้ แต่ยิ่งเขามีพลังมากเท่าไร ภาระที่เขารับไว้ก็ยิ่งหนักหนา
เสียงโทรศัพท์จากห้องไอซียูดังขึ้น ดึงธารออกจากภวังค์ เขาเห็นชื่อของ "เด็กหญิงพิณ วัย 7 ปี ป่วยเป็นโรคหัวใจ" ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ ตามด้วยเสียงร้อนรนของพยาบาล “คุณหมอคะ! คนไข้หัวใจหยุดเต้น ”
ธารรีบวิ่งไปที่ห้องไอซียูทันที หัวใจของเขาเต้นระรัว เขารู้ดีว่าชีวิตของเด็กน้อยคนนี้อยู่ในกำมือของเขา
"หลบหน่อยครับ!" ธารตะโกนบอกทีมแพทย์และพยาบาลที่กำลังยื้อชีวิตเด็กหญิงพิณอย่างสุดกำลัง
ธารวางมือลงบนหน้าอกเล็กๆ ที่ไร้ซึ่งการตอบสนอง เขามองเห็นหัวใจที่บอบบาง เต้นรวยรินอย่างน่าสงสาร เขาหลับตาลง รวบรวมสมาธิ เพ่งพลังทั้งหมดที่มี
"กลับมาหาหมอนะ หนูพิณ"
เสียงกระซิบแผ่วเบาของธาร ราวกับปาฏิหาริย์ เส้นกราฟชีพจรบนเครื่องวัดสัญญาณชีพที่เคยเป็นเส้นตรง กลับมีชีวิตขึ้นอีกครั้ง หัวใจของเด็กหญิงพิณเริ่มเต้นเป็นจังหวะปกติ สร้างความดีใจให้กับทีมแพทย์ พยาบาล และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง พ่อแม่ของเด็กน้อยที่ยืนมองเหตุการณ์ด้วยความลุ้นระทึก
เสียงขอบคุณจากพ่อแม่ของเด็กหญิงพิณ เสียงหัวเราะของเด็กๆ ที่หายป่วย คือรางวัลสูงสุดในชีวิตของธาร แม้เส้นทางที่เขาเลือกเดินจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แม้จะต้องแลกมาด้วยความเหนื่อยล้า ทั้งทางร่างกายและจิตใจ แต่เขาก็ไม่เคยเสียใจ
เพราะเขาได้ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับตัวเอง และกับใยไหม... ผู้หญิงที่เขารัก





................................
วันเวลาผ่านไป ธารยังคงอุทิศตนเป็น "หมอมือเอก" เยียวยารักษาผู้คนนับไม่ถ้วน ชื่อเสียงของเขาดังไกลไปทั่วประเทศ คนไข้จากทุกสารทิศหลั่งไหลมาที่โรงพยาบาล หวังเพียงแค่ได้พบกับชายผู้เปรียบเสมือน “เทวดาในร่างมนุษย์” คนนี้สักครั้ง
ท่ามกลางความวุ่นวาย ธารไม่เคยละเลยใยไหม พวกเขาย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังเล็กๆ ใกล้กับโรงพยาบาล ใยไหมกลายเป็นผู้ช่วยคนสำคัญ ที่คอยดูแลจัดการตารางงาน และเป็นกำลังใจสำคัญของธารเสมอมา
"ธาร วันนี้มีจดหมายจากเด็กชายภูผา ที่เราช่วยผ่าตัดหัวใจเมื่อเดือนก่อนด้วยล่ะ" ใยไหมพูดด้วยรอยยิ้ม ขณะยื่นซองจดหมายสีฟ้าสดใสให้ธาร
"จริงเหรอ อ่านให้ฟังหน่อยสิ" ธารตอบ ดวงตาเป็นประกายอย่างอารมณ์ดี
ใยไหมหยิบจดหมายขึ้นมาอ่าน เสียงหวานใส เอ่ย từng คำด้วยความตื้นตันใจ "ถึงคุณหมอธาร ผมชื่อภูผาครับ จำผมได้ไหมครับ ผมเป็นเด็กที่คุณหมอช่วยผ่าตัดหัวใจ ตอนนี้ผมหายดีแล้วนะครับ ขอบคุณคุณหมอที่ช่วยชีวิตผมไว้ ผมจะเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน แล้วโตไปเป็นหมอแบบคุณหมอนะครับ…”
ภายในบ้านหลังเล็กๆ อบอุ่นไปด้วยความสุข เสียงหัวเราะ รอยยิ้ม และความรักที่ทั้งสองมีให้กัน ราวกับเป็นโลกใบเล็กๆ ที่คอยเติมเต็มความเหนื่อยล้าจากโลกภายนอก
แต่แล้ววันหนึ่ง ความสุขที่แสนเปราะบางก็พังทลายลง เมื่อธารล้มป่วยลงอย่างกะทันหัน
"ธาร! เกิดอะไรขึ้น" ใยไหมร้องเสียงหลง เมื่อเห็นธารทรุดลงไปกองกับพื้น ใบหน้าซีดเผือด
"ฉัน... ไม่... ไหวแล้ว...” ธารพยายามเอ่ย แต่ก็ทำได้เพียงส่งยิ้ม ที่แฝงไปด้วยความเจ็บปวดให้กับใยไหม
"ไม่นะธาร! นายต้องไม่เป็นอะไร!" ใยไหมร้องไห้ กอดร่างไร้เรี่ยวแรงของธารไว้แน่น
ณ ห้องฉุกเฉิน แพทย์และพยาบาลต่างทำหน้าที่อย่างขะมักเขม้น แต่ธารกลับรู้สึกตัวลอย มองเห็นทุกอย่างพร่าเลือน
"คุณหมอคะ! ชีพจรคนไข้อ่อนมากค่ะ!" เสียงพยาบาลดังขึ้น
"เตรียมเครื่องกระตุกหัวใจ!"
ท่ามกลางความวุ่นวาย ธารมองเห็นใยไหมที่ยืนร้องไห้อยู่ด้านนอกห้อง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง หัวใจของเขาเหมือนถูกบีบรัด
"ไม่... ฉันจะทิ้งใยไหมไปแบบนี้ไม่ได้...”
พลังบางอย่างแล่นพล่านไปทั่วร่าง สายตาของธารจับจ้องไปที่เครื่องกระตุกหัวใจที่อยู่ใกล้ๆ
"ขอร้องล่ะ... ช่วยฉันด้วย...”
ราวกับมีปาฏิหาริย์ มือของธารขยับไปสัมผัสกับเครื่องกระตุกหัวใจอย่างช้าๆ พลังลึกลับถูกถ่ายทอดผ่านปลายนิ้ว มุ่งตรงไปยังหัวใจที่บอบช้ำของเขา
เสียงเครื่องวัดชีพจร ที่เคยแผ่วเบา กลับดังขึ้นอีกครั้ง...
............................................

“ชีพจรกลับมาแล้วค่ะ!” เสียงพยาบาลดังขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มโล่งใจ บรรยากาศในห้องฉุกเฉินที่แสนอึดอัดคลายความตึงเครียดลงในทันที ทุกสายตาจับจ้องไปที่เส้นกราฟบนเครื่องวัดชีพจรที่กลับมาเป็นปกติ ราวกับปาฏิหาริย์
ธารลืมตาขึ้นมาอย่างเชื่องช้า ภาพเบื้องหน้าพร่าเลือนเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆ ปรากฏชัด เขาเห็นใบหน้าของใยไหมเปื้อนคราบน้ำตาอยู่ไม่ไกล
“ธาร! นายฟื้นแล้ว” ใยไหมโผเข้ากอดธารแน่น เสียงสั่นเทาด้วยความดีใจ
ธารโอบกอดตอบ สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่แผ่ออกมาจากร่างกายของเธอ "ฉันไม่เป็นไรแล้ว ใยไหม ไม่ต้องห่วงนะ"
หลังจากเหตุการณ์วันนั้น ธารได้รับการตรวจร่างกายอย่างละเอียด แต่แพทย์ทุกคนต่างก็งุนงง พวกเขาไม่พบความผิดปกติใดๆ ในร่างกายของเขาเลย
"มันเป็นไปได้ยังไง... " ธารพึมพำกับตัวเอง ขณะทบทวนเหตุการณ์ในห้องฉุกเฉิน ภาพของมือที่ขยับเองโดยอัตโนมัติ พลังลึกลับที่ไหลเวียนไปทั่วร่างกาย มันช่างน่าเหลือเชื่อ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริง
"ธาร... นายคิดว่า... พลังของนาย..." นทีที่เพิ่งมาถึงเอ่ยขึ้น ดวงตาเบิกกว้าง
ธารพยักหน้ารับ "ฉันคิดว่า พลังของฉันมันพัฒนาขึ้น"
ใช่ ธารมั่นใจแล้วว่า พลังของเขาไม่ได้หยุดอยู่แค่การมองเห็นความเจ็บป่วย แต่มันสามารถรักษา เยียวยา และควบคุมร่างกายของเขาได้ในระดับเซลล์
หลังจากวันนั้น ธารเริ่มฝึกฝนควบคุมพลังของตัวเองอย่างจริงจัง เขาใช้เวลากับการศึกษา ทดลอง และเรียนรู้ขีดจำกัดของพลังที่ไม่มีใครสามารถอธิบายได้นี้
ขณะเดียวกัน ชื่อเสียงของ “หมอมือเอก” ก็ยิ่งทวีคูณ ผู้คนมากมายจากทั่วทุกมุมโลกหลั่งไหลมายังโรงพยาบาลเล็กๆ แห่งนี้ จนล้นไปถึงลานจอดรถ พวกเขามาพร้อมกับความหวัง และศรัทธาในตัวชายหนุ่มที่ชื่อ “ธาร”
แต่ท่ามกลางแสงสว่าง ย่อมมีเงามืดรุกราน ไม่นาน บริษัทยายักษ์ใหญ่หลายแห่งก็เริ่มให้ความสนใจในตัวของธาร พวกเขาต้องการไขความลับของ "พลังพิเศษ" เพื่อผลประโยชน์มหาศาล
ข้อเสนอมากมายถูกยื่นมาถึงมือ ทั้งเงินทอง ชื่อเสียง และอำนาจ แต่ธารปฏิเสธทุกอย่าง
"ผมไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น สิ่งที่ผมทำ เพราะผมอยากช่วยเหลือผู้คน"
คำตอบของธารสร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มคนเหล่านั้น พวกเขาจึงเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ใช้เล่ห์กลสกปรก ข่มขู่คุกคาม หวังให้ธารยอมศิโรราบ
“ธาร ระวังตัวด้วยนะ ฉันรู้สึกไม่ดีเลย” ใยไหมพูดด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล
“ไม่ต้องห่วง ฉันไม่เป็นไร ไม่มีใครทำอะไรฉันได้หรอก” ธารโอบกอดใยไหม ปลอบประโลม
แต่แล้ว วันที่ธารหวาดกลัวที่สุดก็มาถึง...
...................................

วันนั้นเป็นวันที่ท้องฟ้ามืดครึ้มราวกับจะเป็นใจให้กับเหตุการณ์ร้าย ขณะที่ธารกำลังเดินทางกลับบ้านพร้อมกับใยไหม รถตู้สีดำคันใหญ่ก็ขับปาดหน้า บังคับให้รถของพวกเขาต้องหยุดกะทันหัน
กลุ่มชายฉกรรจ์ในชุดดำ พุ่งตัวลงมาจากรถตู้ ใบหน้าแข็งกร้าว ดวงตาแข็งกร้าวราวกับสัตว์ร้าย พวกมันลากตัวธารและใยไหมออกจากรถ ก่อนจะยัดตัวทั้งสองเข้าไปในรถตู้ และขับหายไปในความมืด
“ธาร!” ใยไหมร้องเรียกชื่อธารด้วยความตื่นตระหนก แต่เสียงของเธอถูกกลืนหายไปกับความมืดมิด
ธารพยายามต่อสู้ แต่ก็ไม่อาจต้านทานแรงของชายฉกรรจ์พวกนั้นได้ เขาถูกมัดมือ ปิดตา และพาตัวไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง
“ปล่อยผมนะ! พวกแกเป็นใคร! ต้องการอะไร!” ธารตะโกนถาม แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ
ไม่นาน รถตู้ก็หยุดลง ธารถูกพาตัวเข้าไปในอาคารแห่งหนึ่ง เขาได้ยินเสียงฝีเท้า เสียงประตูเหล็กกระทบกันดังก้องไปทั่ว สร้างบรรยากาศที่น่าขนลุก
ผ้าที่ปิดตาถูกกระชากออก แสงไฟสว่างจ้า ทำให้ธารต้องหรี่ตาลงเล็กน้อย ภาพเบื้องหน้าทำให้เขาทั้งตกใจ และหวาดกลัว...
เขากำลังอยู่ในห้องทดลองขนาดใหญ่ เครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัย วางเรียงรายอยู่ทั่วห้อง ตรงหน้าเขา มีชายวัยกลางคนในชุดสูทสีเทา นั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้ ใบหน้าเรียบเฉย แต่แฝงไปด้วยความร้ายกาจ ข้างๆ กันนั้น มีใยไหมถูกมัดติดกับเตียง ใบหน้าซีดเผือด
“ยินดีต้อนรับ คุณหมอธาร” ชายวัยกลางคนเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“คุณเป็นใคร! ต้องการอะไรจากผม! ปล่อยใยไหมไปซะ!” ธารตวาด
ชายวัยกลางคนหัวเราะในลำคอ “ใจเย็นๆ คุณหมอ ผมแค่อยากให้คุณร่วมงานกับผมเท่านั้นเอง”
“ร่วมงานอะไรของคุณ! ผมไม่—“
“ผมรู้ว่าคุณมีความลับ คุณหมอ ความลับที่สามารถเปลี่ยนแปลงวงการแพทย์ของโลกนี้ได้” ชายวัยกลางคนพูด พร้อมกับเดินเข้ามาใกล้ “ผมอยากได้ “พลัง” ของคุณ”
“ไม่มีทาง! ผมไม่มีวันเอาพลังของผมไปใช้ในทางที่ผิด!”
“น่าเสียดาย...” ชายวัยกลางคนถอนหายใจ “ถ้าอย่างนั้น ผมก็คงต้องบังคับคุณ โดยใช้ “สิ่งสำคัญ” ของคุณ”
ชายวัยกลางคนหันไปมองใยไหมที่นอนตัวสั่นเทาอยู่บนเตียง ก่อนจะหยิบเข็มฉีดยาที่บรรจุของเหลวสีเขียวเข้มขึ้นมา
“ไม่นะ! อย่าทำอะไรใยไหม!” ธารตะโกน ดวงตาเบิกกว้างด้วยความโกรธ และหวาดกลัว
..................................

“หยุดนะ! อย่าทำอะไรเธอ!” ธารพุ่งเข้าใส่ชายวัยกลางคนอย่างขาดสติ แต่กลับถูกชายฉกรรจ์สองคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ เข้าจับตัวไว้แน่น
“อย่าดื้อเลย คุณหมอ” ชายวัยกลางคนพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น ก่อนจะหันไปมองใยไหมที่นอนตัวสั่นเทาอยู่บนเตียง “ถ้าไม่อยากให้เธอเป็นอะไร ก็ทำตามที่ฉันบอกซะดีๆ ”
“แกต้องการอะไร!”
“ง่ายมาก... ฉันอยากให้คุณ “ถ่ายทอด” พลังของคุณให้กับฉัน”
ธารเบิกตากว้างด้วยความตกใจ “ไม่มีทาง! ฉันไม่มีวันทำแบบนั้น!”
“คิดให้ดีๆ นะ คุณหมอ นี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่คุณจะช่วยชีวิตเธอได้”
ธารมองหน้าใยไหม ดวงตาของเธอฉายแววเว้าวอน และความหวาดกลัว เขาไม่เคยเห็นเธอกลัวอะไรแบบนี้มาก่อน
หัวใจของธารแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ เขารู้ว่าตัวเองไม่มีทางเลือก
“ได้... ฉันจะทำ... แต่แกต้องสัญญากับฉันก่อนว่าจะปล่อยใยไหมไป” ธารพูด เสียงสั่นเครือ
“ตกลง ฉันสัญญา” ชายวัยกลางคนยิ้มอย่างผู้ชนะ
“ธาร! ไม่นะ! อย่าทำแบบนี้นะ!” ใยไหมร้องห้าม น้ำตาไหลอาบแก้ม
ธารมองหน้าใยไหมด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรัก “ไม่ต้องห่วงนะ ใยไหม ฉันจะไม่เป็นไร”
ชายวัยกลางคนสั่งให้ลูกน้องเตรียมอุปกรณ์ พวกมันนำอุปกรณ์ประหลาด ที่เต็มไปด้วยสายไฟ และเข็มฉีดยา มาติดตั้งรอบๆ ตัวของธาร
กระบวนการถ่ายทอดพลัง ดำเนินไปอย่างเชื่องช้า และทรมาน ธารรู้สึกเหมือนร่างกายของเขากำลังถูกเผาไหม้ พลังชีวิตค่อยๆ ถูกดูดออกไปทีละน้อย
“อ๊าาาาา!” ธารกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“อดทนหน่อย คุณหมอ อีกนิดเดียวก็เสร็จแล้ว” ชายวัยกลางคนพูด ด้วยน้ำเสียงสะใจ
เวลาผ่านไปนานเท่าใดไม่มีใครรู้ ธารรู้สึกถึงความเหนื่อยล้า ร่างกายของเขาอ่อนแรง ราวกับจะหมดลมหายใจอยู่รอมร่อ
ในที่สุด กระบวนการที่แสนทรมานก็สิ้นสุดลง ชายวัยกลางคนหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เขาได้รับสิ่งที่ต้องการแล้ว
“ขอบใจนะ คุณหมอ ที่มอบของขวัญชิ้นนี้ให้กับฉัน”
“แล้ว... สัญญา... ของแก...” ธารพยายามเอ่ยถาม แต่ก็ทำได้เพียงกระซิบแผ่วเบา
“สัญญาเหรอ? ฮ่าๆๆๆ แกมันช่างไร้เดียงสาจริงๆ” ชายวัยกลางคนหัวเราะอย่างเหยียดหยัน
“แก! อย่าทำอะไรใยไหมนะ!” ธารพยายามรวบรวมแรงเฮือกสุดท้าย
“ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ฆ่าเธอหรอก เธอจะมีประโยชน์กับฉัน ในฐานะ “หนูทดลอง” ไงล่ะ”
สิ้นเสียง ชายวัยกลางคนก็หันหลังเดินจากไป พร้อมกับลูกน้อง ทิ้งให้ธารนอนหายใจรวยรินอยู่บนพื้นห้องทดลองที่เย็นยะเยือก
“ไม่นะ... ใยไหม...”
.........................................

ธารนอนสลบไม่ได้สติอยู่บนพื้นห้องทดลองที่เย็นเยียบนานเท่าใดไม่มีใครรู้ รู้สึกตัวอีกครั้งก็พบว่าตัวเองอยู่บนเตียงเล็กๆ ภายในห้องขังแคบๆ
“ใยไหม…” ชื่อของหญิงคนรักหลุดลอดออกมาจากริมฝีปากแห้งผาก
“หมอธาร ฟื้นแล้วเหรอ”
เสียงทุ้มต่ำคุ้นหูดังขึ้นข้างๆ ธารหันไปมอง พบว่าเป็น “ลุงสมบัติ” ภารโรงวัยชราของโรงพยาบาลที่เขาสนิทด้วย
“ลุงสมบัติ! เกิดอะไรขึ้น! ทำไมผมถึงอยู่ที่นี่! แล้วใยไหมล่ะ! ” ธารรัวคำถาม พยายามลุกขึ้นนั่ง แต่กลับรู้สึกเจ็บแปลบไปทั่วร่างกาย
“ใจเย็นๆ หมอ ฟังลุงนะ...” ลุงสมบัตียื่นน้ำเปล่าให้ ก่อนจะเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ฟัง
หลังจากที่ธารและใยไหมถูกจับตัวไป ลุงสมบัติซึ่งเห็นเหตุการณ์พอดี ก็รีบแจ้งตำรวจ และติดต่อกับ “นที” เพื่อนสนิทของธารทันที
ตำรวจนำกำลังบุกเข้าไปช่วยเหลือ แต่ก็สายเกินไป พวกเขาพบเพียงห้องทดลองที่ว่างเปล่า ไร้ร่องรอยของชายวัยกลางคน และลูกน้อง
“พวกมันวางแผนมาอย่างดี ตำรวจหาหลักฐานอะไรไม่ได้เลย” ลุงสมบัติถอนหายใจ ใบหน้าเศร้าสร้อย
“แล้วใยไหมล่ะ! พวกมันเอาเธอไปไว้ที่ไหน!”
ลุงสมบัติส่ายหน้า “ลุงก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ลุงเชื่อว่าเธอยังมีชีวิตอยู่”
แววตาของลุงสมบัติเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น “พวกมันต้องการ ‘พลัง’ ของหมอ แสดงว่าหมอยังมีประโยชน์กับมัน และถ้าหมอยังมีประโยชน์ ใยไหมก็ปลอดภัย...”
ธารกำหมัดแน่น ความสิ้นหวังกำลังกัดกินหัวใจ แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้
“ผมจะต้องหาใยไหมให้เจอ” ธารพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แววตาเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว
“แล้วเราจะเริ่มจากตรงไหนดีล่ะลุง”
ลุงสมบัติหยิบซองจดหมายสีน้ำตาลที่ซ่อนอยู่ใต้เสื้อออกมา ยื่นให้ธาร “นี่อาจจะเป็นเบาะแส...”
ธารรับซองจดหมายมาเปิดออก ภายในบรรจุรูปถ่าย และข้อความสั้นๆ
‘อยากเจอคนที่คุณรัก ก็มาหาฉันที่นี่ซะ...’
ภาพถ่ายแสดงให้เห็น อาคารร้าง โทรมๆ กลางหุบเขา
เบื้องล่างของภาพ มีข้อความเขียนด้วยลายมือ บรรจง
‘สถาบันวิจัย AZURA’
....................................

"สถาบันวิจัย AZURA" ธารทวนชื่อสถานที่ปริศนาในภาพถ่าย ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ
"ที่นั่น...มัน..."
"ใช่ หมอรู้จักที่นี่เหรอ" ลุงสมบัติถามอย่างแปลกใจ
"มันเป็นสถานที่วิจัยต้องห้าม ถูกสั่งปิดไปหลายสิบปีแล้ว มีข่าวลือว่าที่นี่...ทำการทดลองมนุษย์" ธารอธิบาย เสียงสั่นเล็กน้อย
"การทดลองมนุษย์..." ลุงสมบัติพึมพำ ใบหน้าซีดเผือด
ภาพในหัวของธารย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน ตอนที่เขายังเป็นนักศึกษาแพทย์ เขาเคยได้ยินเรื่องเล่าเกี่ยวกับสถาบันวิจัยแห่งนี้ เป็นสถานที่ลับ ที่รัฐบาลให้ทุนสนับสนุน เพื่อทำการทดลองลับสุดยอด เกี่ยวกับการพัฒนาศักยภาพมนุษย์
แต่การทดลองกลับผิดพลาด ก่อให้เกิดหายนะครั้งใหญ่ นักวิจัยหลายคนเสียชีวิต ผู้ที่รอดชีวิตต่างก็ปิดปากเงียบ ไม่มีใครรู้ความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น
และแล้ว ฝันร้ายจากอดีต กำลังจะหวนกลับมาอีกครั้ง...
"ผมต้องไปช่วยใยไหม" ธารตัดสินใจ แววตาเต็มไปด้วยความแน่วแน่
"แต่หมอจะไปคนเดียวได้ยังไง ที่นั่นมันอันตราย" ลุงสมบัติคัดค้าน
"ผมไม่รู้ว่าชายคนนั้นต้องการอะไร แต่ที่นั่นมันอันตรายเกินกว่าที่ใยไหมจะอยู่คนเดียวได้ ผมต้องไปช่วยเธอ"
"ถ้าอย่างนั้น ลุงไปด้วย"
"ไม่ได้หรอกลุง ผมไปคนเดียวดีกว่า” ธารปฏิเสธ “ยิ่งคนน้อย ยิ่งเคลื่อนไหวสะดวก ถ้าเกิดอะไรขึ้น ผมจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงใคร"
แม้จะเต็มไปด้วยความกังวล แต่ลุงสมบัติก็รู้ดีว่า ไม่อาจห้ามธารได้
"ลุงจะติดต่อ 'นที' ให้ เขาคงช่วยอะไรหมอได้บ้าง"
"ขอบคุณครับลุง"
ธารรู้ดีว่าการเดินทางครั้งนี้ เต็มไปด้วยอันตราย แต่เพื่อใยไหม เขายอมแลก แม้แต่ชีวิตของตัวเอง...
...............................

ธารออกเดินทางในคืนนั้นทันที โดยมีเพียงเป้ใบเล็กๆ บรรจุของใช้จำเป็น แผนที่ และรูปถ่ายของใยไหม เขาขับรถมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือ ตามเส้นทางในแผนที่ มุ่งสู่หุบเขา ที่ซึ่งซ่อนสถาบันวิจัย AZURA เอาไว้
สองข้างทางเต็มไปด้วยป่าเขาที่รกทึบ ยิ่งเข้าใกล้จุดหมาย สัญญาณโทรศัพท์ก็ยิ่งขาดหาย ราวกับว่าสถานที่แห่งนี้ ถูกตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง
“ใกล้ถึงแล้วสินะ...” ธารพึมพำกับตัวเอง ขณะจอดรถไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่ ก่อนจะเดินเท้าต่อ
เขาเดินตามเส้นทางลับ ที่ได้มาจากข้อมูลของ ‘นที’ เพื่อนสนิท ที่แอบสืบค้นมาให้ ยิ่งลึกเข้าไปในป่า บรรยากาศก็ยิ่งวังเวง เสียงสัตว์ป่า ดังก้องไปทั่ว แต่กลับสร้างความรู้สึก อึดอัด กดดัน อย่างประหลาด
ในที่สุด ธารก็มาถึงยังกำแพงคอนกรีตสูงใหญ่ ที่ถูกปกคลุมไปด้วยเถาวัลย์ เบื้องหลังกำแพง คือ อาคารร้าง ทรุดโทรม ตามภาพถ่าย ไม่มีผิด
สถาบันวิจัย AZURA...
ธารปีนข้ามกำแพง เข้าไปด้านใน ความรู้สึกเย็นยะเยือก แล่นไปทั่วร่างกาย ราวกับว่าสถานที่แห่งนี้ เต็มไปด้วยความตาย และความสิ้นหวัง
“ใยไหม...” ธารเรียกหาหญิงคนรัก เสียงแผ่วเบา หวังว่าเธอจะได้ยิน
ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ มีเพียงความเงียบงัน ที่ดังก้องอยู่ในใจ...
ธารตัดสินใจเดินสำรวจ ภายในอาคาร เริ่มจากห้องทดลอง ที่ดูเหมือนจะถูกทิ้งร้าง เป็นเวลานาน อุปกรณ์ต่างๆ ผุพัง กระจัดกระจาย เอกสารสำคัญ ถูกฉีกทิ้งเกลื่อนกลาด
บนผนังห้อง เต็มไปด้วยรอยขีดเขียน แปลกๆ คล้ายกับเป็นสัญลักษณ์ บางอย่าง ธารเพ่งมอง พยายามหาความหมาย
ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกได้ถึง “พลัง” บางอย่าง ที่คุ้นเคย…
...............................

พลังบางอย่างแผ่ซ่านอยู่ทั่วบริเวณ ราวกับเป็นพลังงาน ที่มองไม่เห็น แต่กลับสัมผัสได้ ธารกำหมัดแน่น พยายามควบคุม ‘สัมผัสพิเศษ’ ที่อยู่ภายในตัว
ภาพเหตุการณ์ในอดีต ค่อยๆ ปรากฏขึ้น ในหัวของธาร...
เสียงกรีดร้องทรมาน ของผู้คนมากมาย ดังก้องไปทั่วห้องทดลอง ร่างของพวกเขา ถูกพันธนาการไว้กับเตียง สายไฟ และท่อ จำนวนมาก เชื่อมต่อกับร่างกาย ของเหลว สีเขียวเข้ม ถูกฉีดเข้าไปในเส้นเลือด
ภาพชายวัยกลางคน ในชุดกราวน์สีขาว ยืนยิ้มอย่างบ้าคลั่ง อยู่ท่ามกลาง ความโกลาหล
‘พลัง... ฉันจะต้องได้มันมา...’
เสียงเย็นยะเยือก ของชายคนนั้น ราวกับ คำสาป ที่คอยหลอกหลอน ธาร
ภาพเหตุการณ์ เลือนหายไป ทิ้งไว้เพียง ความรู้สึก หนาวเหน็บ ที่แผ่ซ่าน ไปทั่วร่างกาย
“ที่นี่... มันเกิดเรื่องเลวร้าย ขึ้นมากมาย”
ธารพึมพำ พลางกำ รูปถ่ายของใยไหม แน่นขึ้น
เขาต้องไม่ยอมแพ้...
ธารออกตามหาร่องรอยของใยไหมต่อไป ภายในอาคาร แต่ก็ไร้วี่แวว เขาพบเพียง ห้องขัง ที่เต็มไปด้วย ร่องรอย การต่อสู้ และ คราบเลือด ที่แห้งกรัง
ความหวัง ในใจ เริ่มริบหรี่ ลงทีละน้อย...

................................
ความสิ้นหวังเริ่มก่อตัวขึ้นในใจของธาร เขาเดินวนไปมาภายในอาคารร้าง แต่ก็ไม่พบร่องรอยของใยไหม หรือแม้แต่เงาของชายวัยกลางคนคนนั้น
“ใยไหม… เธออยู่ที่ไหนกัน…”
เสียงเรียกแผ่วเบา ดังก้องไปทั่วความเงียบ แต่ก็ไม่มีวี่แววของคำตอบ
ทันใดนั้น สายตาของธารก็พลันไปสะดุดกับ ประตูเหล็กหนา ที่อยู่ลึกสุด ภายในห้องโถง มันดูใหม่ และแข็งแรงกว่าประตูบานอื่นๆ ราวกับถูกสร้างขึ้น เพื่อปกปิด สิ่งสำคัญเอาไว้
ธารเดินเข้าไปใกล้ สัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่าง ที่แผ่ออกมาจากเบื้องหลังประตู
“ใยไหม…” ธารพึมพำ หัวใจเต้นระรัวด้วยความหวัง
เขาเอื้อมมือไปที่ลูกบิดประตู แต่ก็ต้องชะงัก…
“ถ้าเปิดออกไป แล้วเจอ ‘กับดัก’ ล่ะ?” เสียงของ ‘นที’ ที่เขาเคยเตือนเอาไว้ ดังก้องขึ้นในหัว
แต่... ถ้าไม่เสี่ยง แล้วเขาจะรู้ได้อย่างไร ว่าใยไหมอยู่ หรือไม่อยู่ หลังประตูบานนี้…
“ขอโทษนะนที... แต่ครั้งนี้ ฉันขอทำตามหัวใจตัวเอง”
ธารสูดหายใจเข้าลึกๆ รวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มี ก่อนจะผลักประตู ออกไปอย่างแรง…
ภาพที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า ทำให้ธาร ถึงกับ ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง!

.................................

เบื้องหลังประตูเหล็ก ไม่ใช่ห้องขังเย็นเยียบ หรือห้องทดลองที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์น่ากลัวอย่างที่ธารคาดไว้ แต่กลับเป็น...
สวนขนาดย่อม
สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางอาคารร้าง แสงอาทิตย์สาดส่องลงมาจากช่องแสงขนาดใหญ่บนเพดาน ต้นไม้เขียวขจี ดอกไม้นานาพันธุ์ บานสะพรั่ง ส่งกลิ่นหอม อบอวลไปทั่วบริเวณ น้ำพุขนาดเล็ก ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางสวน ส่งเสียงน้ำไหล ขับกล่อม อย่างผ่อนคลาย
ราวกับเป็น ‘สวนสวรรค์’ ที่ถูกซ่อน เอาไว้ ใน ‘ขุมนรก’
ธารยืนนิ่ง อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ เดินเข้าไปในสวน ด้วยความระมัดระวัง เขามองไปรอบๆ แต่ก็ไม่พบ ใยไหม หรือแม้แต่ ร่องรอยของสิ่งมีชีวิตใดๆ
“ที่นี่มัน... เกิดอะไรขึ้นที่นี่กันแน่?” ธารพึมพำกับตัวเอง
ทันใดนั้น เขาก็ได้ยินเสียง ฝีเท้า ดังมาจากด้านหลัง ธารหันกลับไปมอง อย่างรวดเร็ว หัวใจเต้นรัวด้วยความตื่นเต้น
ร่างของชายชรา คนหนึ่ง ค่อยๆ ก้าวออกมาจากเงามืด ใบหน้าของเขา เต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งกาลเวลา ดวงตา ทอประกาย เปี่ยมไปด้วยปัญญา
“คุณคือ...?” ธารเอ่ยถาม เสียงสั่นเล็กน้อย
ชายชรายิ้มอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า
“ในที่สุด... ‘ผู้สืบทอด’ ก็มาถึง”

...........................................
"ผู้สืบทอด?" ธารทวนคำพูดของชายชรา ใบหน้าแสดงออกถึงความฉงน
"ใช่แล้ว ผู้สืบทอดพลังแห่ง 'AZURA'" ชายชรา ย้ำ ก่อนจะเดินนำธารไปยังม้านั่งหินอ่อนสีขาวสะอาดตา ใต้ร่มไม้ใหญ่
ธารเดินตามไปนั่งลงฝั่งตรงข้าม ชายชราแนะนำตัวเองว่าชื่อ “อาจารย์ปรัชญา” เคยเป็นหนึ่งในนักวิจัย ของสถาบัน AZURA แห่งนี้
"แล้ว ที่นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับ ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้" ธารถาม สายตามองไปรอบๆ สวนสวย ที่ตัดกับความ ทรุดโทรม ของตัวอาคาร
อาจารย์ปรัชญาถอนหายใจ ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องราวในอดีตให้ฟัง...
หลายสิบปีก่อน สถาบัน AZURA ก่อตั้งขึ้นอย่างลับๆ โดยมีเป้าหมาย เพื่อพัฒนาศักยภาพ ของมนุษย์ ให้ก้าวข้ามขีดจำกัด เดิมๆ โดยใช้ เทคโนโลยี และ พลังงาน ลึกลับ ที่พวกเขาค้นพบ
อาจารย์ปรัชญา คือ หนึ่งในผู้ที่ สนับสนุน โครงการนี้ เขาเชื่อมั่นว่า มนุษย์ สามารถ พัฒนา ตนเอง ไปได้อีกขั้น
แต่... ทุกอย่าง กลับ ผิดพลาด...
การทดลอง ทำให้เกิด ผลข้างเคียง ที่ ร้ายแรง ผู้ถูกทดลอง หลายคน กลายเป็น ‘สัตว์ประหลาด’ ที่ ควบคุมตัวเองไม่ได้
“รวมถึง ชายวัยกลางคน ที่จับตัวผมมาด้วยเหรอครับ” ธารถาม
อาจารย์ปรัชญา พยักหน้า “ใช่ เขาคือ ‘อัครา’ อดีต เพื่อนร่วมงานของฉัน และเป็นคนที่ ‘ทะเยอทะยาน’ มากที่สุด... เขาต้องการครอบครอง พลัง ทั้งหมด ของ AZURA ไว้เพียงคนเดียว”
“แล้ว ใยไหมล่ะครับ เธออยู่ที่ไหน ปลอดภัยดีหรือเปล่า” ธารถามด้วยความเป็นห่วง
“ใจเย็นๆ ธาร” อาจารย์ปรัชญายิ้มบางๆ “ที่จริงแล้ว ‘ใยไหม’ ปลอดภัยดี และ เธอ ก็อยู่ที่นี่...”

....................................
"อยู่ที่นี่เหรอครับ!" ธารผุดลุกขึ้นยืนอย่างตื่นเต้น "แล้วเธออยู่ไหน ผมอยากเจอเธอเดี๋ยวนี้"
อาจารย์ปรัชญายกมือห้าม รอยยิ้ม อบอุ่น ปรากฏบนใบหน้าเหี่ยวย่น "ใจเย็นๆ ธาร ‘ใยไหม’ กำลังรอเธออยู่... ในที่ที่ปลอดภัย"
"ที่ที่ปลอดภัย?"
"ใช่ สถานที่แห่งนั้น ถูกสร้างขึ้น เพื่อปกป้อง 'ผู้ถูกเลือก' จาก 'ภัยคุกคาม' ทุกอย่าง แม้แต่อัครา ก็ไม่อาจเข้าไป ในนั้นได้"
อาจารย์ปรัชญา ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง "ตามข้ามา ธาร ข้าจะพาเจ้าไปพบ ‘ใยไหม’ และ เรียนรู้ ‘ความจริง’ เกี่ยวกับ 'พลัง' ที่เจ้าได้รับ"
อาจารย์ปรัชญา เดินนำธาร ไปยัง น้ำพุ ใจกลางสวน เบื้องหน้าของพวกเขา ผิวน้ำ เริ่มสั่นไหว เป็นเกลียวคลื่น
แสงสว่าง สีทอง สาดส่อง ออกมาจาก ก้นบึ้ง ของ น้ำพุ ราวกับ ดวงอาทิตย์ กำลัง ลอยขึ้น จาก ใต้พิภพ
"นี่มัน..." ธารเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง
"ทางเข้า สู่ 'AZURA' ที่แท้จริง..."
อาจารย์ปรัชญา หันมามองหน้า ธาร ดวงตา ทอประกาย ด้วย ความหวัง
"พร้อมหรือยัง ธาร... ที่ จะ เผชิญหน้า กับ 'พรหมลิขิต' ของเจ้า"

.................................
ธารมองไปยังแสงสว่างที่ส่องประกายอยู่เบื้องหน้า รู้สึกได้ถึงพลังงานอันยิ่งใหญ่ที่แฝงเร้นอยู่ภายใน ใจหนึ่ง เต็มไปด้วยคำถามและความกังวล แต่อีกใจหนึ่ง กลับรู้สึกตื่นเต้นและรอคอย
“ผมพร้อมแล้วครับ” ธารตอบ เสียงหนักแน่น แววตาเต็มไปด้วยความแน่วแน่
อาจารย์ปรัชญายิ้มพอใจ ก่อนจะเอ่ยขึ้น "จงก้าวเข้าไปเถิด ธาร 'AZURA' กำลังรอคอยเจ้าอยู่"
ธารสูดหายใจเข้าลึกๆ รวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มี ก้าวเท้าลงไปในแสงสว่าง โดยไม่ลังเล ร่างกายของเขารู้สึกร้อนวาบ ราวกับถูกดูดเข้าไปใน ‘มิติ’ อื่น
ภาพเบื้องหน้าค่อยๆ ปรากฏขึ้น ธารพบว่าตัวเองอยู่ในห้องโถง สีขาว สะอาดตา แปลกตา เพดานสูงเสียดฟ้า ประดับประดาด้วยผลึกแก้ว ที่เปล่งประกายระยิบระยับ เบื้องหน้าของเขา มีหญิงสาว รูปร่างคุ้นเคย ยืนหันหลังอยู่
“ใยไหม…” ธารเอ่ยเรียกชื่อ หญิงคนรัก เสียงสั่นเครือ
หญิงสาวหันกลับมา เผยให้เห็นใบหน้า ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“ธาร…”
ทั้งสองโผเข้ากอดกัน แน่น ความรู้สึกคิดถึง และ โล่งใจ หลั่งไหล เข้ามาในหัวใจ
“ใยไหม เธอปลอดภัยดีใช่ไหม เขาไม่ได้ทำอะไรเธอใช่หรือเปล่า” ธารถาม พลางสำรวจ ร่างกาย ของหญิงสาว ด้วยความเป็นห่วง
“ฉันปลอดภัยดี ธาร” ใยไหม ตอบ เสียง สั่นเล็กน้อย “ที่นี่ คือ ‘AZURA’ ที่แท้จริง… มันเป็นสถานที่ ที่ ‘จิตสำนึก’ ของ ‘พลัง’ นี้ สิงสถิตย์ อยู่”
ธารขมวดคิ้ว “จิตสำนึก ของ ‘พลัง’ อย่างนั้นเหรอ?”
“ใช่...” เสียงของอาจารย์ปรัชญาดังขึ้น ท่านเดินออกมาจากเงามืด มุมหนึ่งของห้องโถง “ที่จริงแล้ว ‘AZURA’ ไม่ใช่แค่ ‘พลัง’ แต่มันคือ ‘ชีวิต’ รูปแบบหนึ่ง...”

..............................

"ชีวิต...?" ธารทวนคำพูดของอาจารย์ปรัชญา ใบหน้าฉายแววกังขา
"ใช่ 'AZURA' คือ 'จิตวิญญาณ' ที่ถือกำเนิดขึ้น จาก 'พลังงาน' บริสุทธิ์ ของโลกใบนี้" อาจารย์ปรัชญา อธิบาย
"มันเลือก ที่จะ 'สิงสถิตย์' อยู่ใน สถานที่แห่งนี้ และมอบ 'พลัง' ให้กับมนุษย์ ที่ถูกเลือก เพื่อใช้ในการ 'เยียวยา' โลกใบนี้"
"แล้วทำไม ‘AZURA’ ถึงเลือกผม” ธารถามต่อ
“เพราะ ‘หัวใจ’ ของเจ้าไงล่ะ ธาร” ใยไหม ตอบแทน ดวงตา ของเธอ ทอประกาย อบอุ่น
“'AZURA' สัมผัสได้ถึง 'ความรัก' และ 'ความเสียสละ' ที่เจ้ามีต่อผู้อื่น เจ้าคือ ‘ผู้ถูกเลือก’ ที่คู่ควรกับ ‘พลัง’ นี้”
"แล้ว... ผมควรจะทำยังไงต่อไป" ธาร ถาม รู้สึกถึง 'ภาระอันยิ่งใหญ่' ที่กำลังถาโถมเข้ามา
อาจารย์ปรัชญา ยิ้มอย่าง อบอุ่น “‘AZURA’ จะมอบ ‘พลัง’ ให้เจ้าอย่างเต็มที่ ธาร... เจ้าจะสามารถใช้มัน เพื่อ ‘เยียวยา’ ทั้ง ‘ร่างกาย’ และ ‘จิตใจ’ ของมนุษย์ รวมถึง ขจัด ‘ภัยคุกคาม’ ที่ อัครา ก่อขึ้น ได้”
“แต่… ผมจะเอาชนะ อัคราได้ยังไง ในเมื่อเขา ก็มี ‘พลัง’ ของ 'AZURA' เหมือนกัน”
“พลัง ที่ อัครา ได้ไป เป็นเพียง ‘เศษเสี้ยว’ เท่านั้น ธาร” ใยไหม อธิบาย
“เขาไม่อาจควบคุม ‘พลังที่แท้จริง’ ของ 'AZURA' ได้หรอก”
ธารพยักหน้ารับ แม้จะยัง ไม่มั่นใจนัก แต่ เขาก็ ไม่มีทางเลือกอื่น
เขา ต้อง หยุด อัครา ให้ได้...
เพื่อ ใยไหม...
เพื่อ มนุษยชาติ...
และ เพื่อ... 'AZURA'...

..................................

อาจารย์ปรัชญา พาธารและใยไหมไปยังห้องโถงด้านในสุด ใจกลางห้องมีแท่นหินทรงกลม สลักลวดลายโบราณ ดูลึกลับ เหนือแท่นหิน มี ‘ลูกแก้ว’ สีฟ้าใส ลอยอยู่กลางอากาศ เปล่งประกาย สว่าง จ้า ราวกับ ดวงดาว
“นั่นคือ ‘แก่นแท้’ ของ ‘AZURA’ ” อาจารย์ปรัชญา อธิบาย
“มันคือ ‘ต้นกำเนิด’ ของ ‘พลัง’ ทั้งหมด”
“ธาร... จงเข้าไป และ รับ ‘พลัง’ จาก ‘AZURA’ เสีย”
ธารมอง ‘ลูกแก้ว’ ด้วยความรู้สึก ตื่นเต้น และ หวาดหวั่น ปะปนกันไป เขารู้ดีว่า นี่คือ ‘จุดเปลี่ยน’ สำคัญ ในชีวิตของเขา
“ผมจะทำได้ ใช่ไหม” ธารหันไปถาม ใยไหม
ใยไหม ยิ้มให้กำลังใจ “เชื่อมั่นในตัวเอง ธาร ‘AZURA’ เลือก นายแล้ว”
ธารพยักหน้ารับ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก้าวเท้า อย่าง มั่นคง ไปยัง แท่นหิน
เมื่อยืนอยู่ตรงหน้า ‘ลูกแก้ว’ ธารรู้สึกได้ถึง พลังงานอันยิ่งใหญ่ ที่ แผ่ซ่าน ออกมา ราวกับ ถูกดึงดูด เข้าไปใน วังวน
แสงสว่าง จาก ‘ลูกแก้ว’ สาดส่อง เข้าปกคลุมร่างของธาร เขารู้สึกได้ถึง ความอบอุ่น ความแข็งแกร่ง และ ความสงบสุข ไหลเวียน ไปทั่วร่างกาย
ภาพความทรงจำ มากมาย ผุดขึ้น ในหัวของธาร เขาเห็น อดีต ของ ‘AZURA’ เห็น ความหวัง และ ความผิดพลาด เห็น ความพยายาม และ การเสียสละ
เขา เข้าใจแล้วว่า...
‘พลัง’ ที่แท้จริง ไม่ใช่สิ่งที่ใช้ เพื่อ ความทะเยอทะยาน แต่คือ ‘ความรัก’ ‘ความเสียสละ’ และ ‘ความปรารถนาดี’ ที่ มีต่อ เพื่อนมนุษย์
“ข้า... พร้อมแล้ว” ธาร เอ่ย ขึ้น เสียงก้องกังวาน ไปทั่ว ห้องโถง
แสงสว่าง เปล่งประกาย เจิดจ้า ขึ้น อีกครั้ง...
บัดนี้... ธาร ไม่ใช่แค่ ‘หมอ’ ธรรมดาอีกต่อไป
แต่คือ... ‘ผู้สืบทอด’ ‘พลังแห่ง AZURA’ อย่างแท้จริง!
...................................
แสงสว่างค่อยๆ จางหายไป ธารลืมตาขึ้น พบว่าตัวเองยังคงยืนอยู่ที่เดิม แต่กลับรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง ภายในร่างกาย มีพลังงานอันบริสุทธิ์ ไหลเวียนอยู่ทุกอณู
เขารู้สึก ‘เชื่อมโยง’ กับ ‘AZURA’ อย่างประหลาด ราวกับว่า พวกเขา คือ ‘หนึ่งเดียว’ กัน
“ธาร…” ใยไหม เอ่ยเรียก ด้วยความรู้สึก ตื้นตันใจ
ธารหันไปยิ้มให้ หญิงคนรัก ดวงตา ของเขา เปล่งประกาย ด้วย ‘พลัง’ ที่ แข็งแกร่ง กว่าเดิม
“ฉันสัมผัสได้… 'AZURA' เลือก นาย ได้ถูกคนแล้ว” อาจารย์ปรัชญา กล่าว ด้วย รอยยิ้ม
“ตอนนี้ เจ้าคือ ‘ความหวังเดียว’ ที่จะ หยุดยั้ง อัครา และ นำพา ‘AZURA’ กลับคืนสู่ ‘สมดุล’ อีกครั้ง”
ธารพยักหน้ารับ อย่างมุ่งมั่น “ผมจะทำ ทุกวิถีทาง เพื่อหยุดยั้ง อัครา และปกป้อง ‘AZURA’ ”
“แล้วเราจะตามหา อัครา ได้ที่ไหนครับ” ธาร ถาม
“เขาต้องหาทาง เข้ามาที่ ‘AZURA’ อีกครั้งแน่ เพื่อ ชิงเอา ‘พลัง’ ที่แท้จริง ไป” อาจารย์ปรัชญา อธิบาย
“เราต้อง ‘ล่อ’ ให้เขา ปรากฏตัวออกมา”
“ต้องทำยังไงบ้างครับ” ธาร ถามอย่าง กระตือรือร้น พร้อมที่จะ เผชิญหน้า กับ ศัตรู
อาจารย์ปรัชญา เดินนำธารและ ใยไหม ไปยัง กำแพง ด้านหนึ่ง ของ ห้องโถง
“‘AZURA’ มิได้มีเพียง ‘พลังแห่งการเยียวยา’...”
ท่าน เอ่ย พร้อมกับ วางมือ ลงบนผนัง
ทันใดนั้น กำแพง ก็ สั่นสะเทือน ภาพ เหตุการณ์ ต่างๆ ปรากฏขึ้น บนผนังหิน ราวกับ เป็น ‘หน้าจอ’ ขนาดยักษ์
“แต่ ยังสามารถ ‘เปิดเผย’ ‘ความลับ’ ที่ ถูกซ่อนอยู่...”

..................................
ภาพที่ปรากฏบนกำแพง คือภาพเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น ทั่วทุกมุมโลก
ภัยพิบัติทางธรรมชาติ โรคระบาดร้ายแรง สงคราม และความขัดแย้ง ที่ กำลัง ทำลายล้าง มนุษยชาติ
“นี่มัน...” ธาร เบิกตากว้างด้วยความตกใจ
“‘AZURA’ มิได้เพียงแค่ ‘เยียวยา’ ร่างกาย...” อาจารย์ปรัชญา กล่าว น้ำเสียง หนักแน่น
“แต่ยัง ‘รับรู้’ ถึง ‘ความเจ็บปวด’ ของ ‘โลกใบนี้’...”
ภาพบนกำแพง เปลี่ยนไป กลายเป็นภาพของ ‘อัครา’ ที่กำลัง รวบรวม กำลังพล เตรียมตัว เพื่อ ‘ครอบครอง’ ‘AZURA’
“อัครา ต้องการใช้ ‘พลัง’ ของ ‘AZURA’ เพื่อ ‘ควบคุม’ โลกใบนี้” ใยไหม กล่าวเสริม
“เขาคิดว่า ตัวเอง คือ ผู้ที่ ‘คู่ควร’ ที่จะ ‘กำหนดชะตากรรม’ ของมนุษย์”
“เขา คิดผิดแล้ว!” ธาร กำหมัดแน่น แววตา ลุกโชน ด้วย ความมุ่งมั่น
“ผมจะไม่มีวันยอมให้ อัครา ทำแบบนั้นเด็ดขาด!”
“แล้วเราจะหยุดเขาได้ยังไง” ใยไหม เอ่ยถาม ด้วยความ กังวล
ธาร หันไปสบตา หญิงคนรัก ก่อนจะ ยิ้มมั่นใจ
“‘AZURA’ บอกผมแล้ว...”
ธาร ยกมือขึ้น สัมผัสกับ ‘ลูกแก้ว’ ที่ เปล่งประกาย อยู่ กลางห้อง
“ถึงเวลาแล้ว... ที่เรา จะ ‘เปิดเผย’ ‘พลังที่แท้จริง’ ของ ‘AZURA’ ให้โลกรู้!”
.....................................
ธารหลับตาลง เพ่งสมาธิ เชื่อมต่อจิตใจกับ ‘AZURA’ พลังอันบริสุทธิ์ ไหลเวียน ไปทั่วร่างกาย
แสงสว่างสีฟ้า แผ่กระจาย ออกจากร่าง ของธาร ส่องสว่างไปทั่วทั้ง ‘AZURA’
กำแพง รอบห้องโถง เลือนหายไป เผยให้เห็น ท้องฟ้า และ ผืนป่า เบื้องนอก
พลังของ ‘AZURA’ แผ่ขยายออกไป อย่างรวดเร็ว ทะลุผ่าน กำแพง ของ สถาบันวิจัยร้าง
ต้นไม้ ที่เหี่ยวเฉา กลับเขียวชอุ่ม อีกครั้ง ดอกไม้ ที่ ร่วงโรย ผลิบาน สะพรั่ง
สัตว์ป่า ที่ หวาดกลัว พลังด้านมืด ต่าง ออกมา ชื่นชม ‘พลังแห่งชีวิต’ ที่ แผ่ซ่าน อยู่ ทั่ว หุบเขา
‘AZURA’ กำลัง ‘เยียวยา’ ทุกสรรพสิ่ง
และ ส่ง ‘ข้อความ’ ออกไป...
ทั่วโลก...
ผู้คนมากมาย ที่ กำลัง สิ้นหวัง ต่าง รู้สึกได้ถึง ‘ความอบอุ่น’ ที่ แผ่ซ่าน เข้ามา ใน หัวใจ
ภาพ ‘นิมิต’ ปรากฏขึ้น ใน จิตใจ ของพวกเขา
ภาพ ของ ‘ชายหนุ่ม’ ผู้ เปี่ยม ไปด้วย ‘ความรัก’ และ ‘ความเสียสละ’
‘ผู้สืบทอด’ พลังแห่ง ‘AZURA’...
“เขา... คือ ความหวังเดียวของเรา”
เสียงกระซิบ ดัง ก้องไปทั่วโลก...

................................
พลังของ ‘AZURA’ ที่แผ่ขยายออกไปทั่วโลก ทำให้ อัครา ที่อยู่ ณ ใจกลางเมืองใหญ่ สัมผัสได้ถึง ‘ภัยคุกคาม’
“เป็นไปไม่ได้! ‘AZURA’ กำลัง ‘ตื่นขึ้น’ งั้นเหรอ!”
อัครา ถึงกับ ตื่นตระหนก แผนการ ของเขา ใกล้จะ สำเร็จอยู่แล้ว แต่ กลับ มี สิ่ง ที่ เหนือความคาดหมาย เกิดขึ้น
“ไม่ได้การล่ะ! ข้าต้อง รีบ ‘ช่วงชิง’ ‘AZURA’ มาให้ได้ ก่อนที่ ‘พลัง’ ของมัน จะ ‘ตื่นขึ้น’ อย่างสมบูรณ์!”
อัครา รวบรวม สมุน คู่ใจ มุ่งหน้าไปยัง ‘สถาบันวิจัย AZURA’ ทันที
เขาไม่รู้ว่า กำลัง เผชิญหน้า กับอะไร
แต่ ‘ความทะเยอทะยาน’ บังตา เขา จนหมดสิ้น...
ณ ‘AZURA’...
ธารลืมตาขึ้น มองเห็น ‘แสงสว่าง’ ที่ แผ่ซ่าน อยู่ ทั่ว ทุก หน แห่ง
“สำเร็จแล้ว...” อาจารย์ปรัชญา กล่าว ด้วย รอยยิ้ม
“‘AZURA’ ได้ ‘ตื่นขึ้น’ แล้ว โลกใบนี้... จะ ‘ปลอดภัย’...”
แต่ ทันใดนั้นเอง...
ท้องฟ้า ก็ มืดครึ้มลง กะทันหัน !
พลังงานด้านมืด ปกคลุม ไปทั่วท้องฟ้า เหนือ ‘สถาบันวิจัย AZURA’
อัครา และ กองทัพ ปรากฏตัวขึ้น !
“ธาร! ถึงเวลา ‘ปิดฉาก’ ทุกอย่าง แล้ว!”
‘สงครามครั้งสุดท้าย’... กำลังจะเริ่มต้นขึ้น !

..............................................
อัครา ในร่างที่เต็มไปด้วยพลังด้านมืด ลอยอยู่กลางอากาศ ดวงตาแดงก่ำจ้องมองธารอย่างอาฆาต
“แกมัน ‘ตัวขัดขวาง’!” เสียงทุ้มต่ำของอัครา กึกก้องไปทั่ว
“‘AZURA’ เป็นของข้า! ไม่มีใครหน้าไหน มาแย่งมันไปได้!”
พลังงานด้านมืด พุ่งเข้าใส่ ธาร ราวกับพายุคลั่ง แต่ธารกลับยืนนิ่ง ‘AZURA’ แผ่ ‘กำแพงพลัง’ ปกป้องเขาจากอันตราย
“ผมจะไม่ ‘ต่อสู้’ กับคุณ อัครา” ธาร กล่าวด้วยน้ำเสียงสงบ
“‘AZURA’ ไม่ได้สอนให้ผม ‘ทำร้าย’ ใคร”
“ปากดีนักนะ!” อัครา คำราม ก่อนจะ สั่งสมุน คู่ใจ โจมตี ธาร
สมุนของอัครา ต่างก็ได้รับ ‘พลังด้านมืด’ จน ร่างกาย แข็งแกร่ง และ ดุร้าย ยิ่งกว่า สัตว์ป่า พวกมัน พุ่งเข้า โจมตีธาร อย่างบ้าคลั่ง
แต่ธาร กลับหลบหลีก การโจมตี ได้อย่าง คล่องแคล่ว ด้วย ‘สัมผัสพิเศษ’ ที่ ‘AZURA’ มอบให้ เขาสามารถ ‘คาดการณ์’ การเคลื่อนไหว ของศัตรู ได้ ล่วงหน้า
“แกมัน ‘ขี้ขลาด’ ธาร!” อัครา ตะโกน เยาะเย้ย
“มีดีแค่ ‘หลบ’ อย่างเดียว หรือไง!”
ธาร ไม่ตอบโต้ แต่ กลับ ใช้ ‘พลังแห่ง AZURA’ ‘รักษา’ บาดแผล ให้กับ สมุน ของ อัครา ที่ ได้รับบาดเจ็บ จากการต่อสู้
“พวกคุณ ‘ถูกหลอกใช้’ แล้ว” ธาร กล่าว ด้วย น้ำเสียง เห็นใจ
“อัครา ไม่ได้ ‘หวังดี’ กับพวกคุณ หรอก เขา แค่ ต้องการใช้พวกคุณ เป็น ‘เครื่องมือ’ เท่านั้น”
บางสิ่ง ใน แววตา ของ สมุน บางคน เริ่ม ‘สั่นคลอน’...

...........................................
คำพูดของธาร ราวกับ ‘แสงสว่าง’ ส่องไปยัง ‘ความมืด’ ในใจของ สมุน ของ อัครา
พวกเขาหลายคน เริ่ม ‘ตระหนัก’ ได้ว่า ถูก ‘หลอกใช้’ มาตลอด
“หัวหน้า... พวกเรา... ”
“หุบปาก! อย่าไปฟัง มัน!” อัครา ตวาด ด้วยความโกรธ
“พวกแก มัน ‘ทรยศ’ ข้า!”
พลังด้านมืด ปะทุ ออกจากร่างของ อัครา อย่าง รุนแรง
“ในเมื่อพวกแก เลือกที่จะ ‘ทรยศ’ ข้า!”
“งั้นก็ ‘ตาย’ ไปซะ!”
พลังงานด้านมืด พุ่งเข้า โจมตี สมุน ของตัวเอง อย่าง ไม่ปราณี !
“ไม่นะ!” ธาร ร้องห้าม แต่ก็สายเกินไป
“นี่หรือ... ‘ความทะเยอทะยาน’ ที่ ‘บิดเบือน’ จิตใจ ของมนุษย์...” อาจารย์ปรัชญา เอ่ย ด้วยความ สลดใจ
“อัครา... เจ้า ‘หลงทาง’ เกินกว่า จะ ‘หวนกลับ’ แล้ว”
ธาร กำหมัดแน่น ‘ความโกรธ’ เริ่ม ก่อตัวขึ้น ในใจ
“อัครา! แก มัน ‘ปีศาจ’ !”
“ใช่! ข้าคือ ‘ปีศาจ’!” อัครา หัวเราะ อย่าง บ้าคลั่ง
“และข้า จะเป็น ‘ผู้ครอบครอง’ โลกใบนี้!”
พลังด้านมืด มหาศาล รวมตัวกัน อยู่ บนท้องฟ้า
กลายเป็น ‘พายุ แห่ง ความมืด’ ที่ พร้อมจะ ‘ทำลายล้าง’ ทุกสิ่ง!
“ธาร! ถึงเวลา ที่เจ้าต้อง ‘เลือกว่า’ จะ ‘ปกป้อง’ หรือ ‘ทำลาย’ !” เสียง ของ ‘AZURA’ ดังก้อง ใน ใจ ของ ธาร
ธาร มองไป ยัง ‘ใยไหม’ ที่ ยืนอยู่ ไม่ไกล
สายตา ของเธอ เต็มไปด้วย ‘ความเชื่อมั่น’
ธาร สูดหายใจเข้าลึกๆ หลับตาลง และ...
ปลดปล่อย...
‘พลังที่แท้จริง’... ของ ‘AZURA’ ออกมา!

...............................................
แสงสว่างสีฟ้าบริสุทธิ์ สาดประกายเจิดจ้าจากร่างของธาร แผ่ขยายออกไปทั่วท้องฟ้า ขับไล่ความมืดมิดที่อัคราสร้างขึ้นให้มลายหายไปในพริบตา พลังอันบริสุทธิ์ อ่อนโยน แต่ แข็งแกร่ง เกินกว่าที่ อัครา จะ ต้านทาน ได้
“นี่มัน... เป็นไปไม่ได้!” อัครา ร้องลั่น ด้วยความ หวาดกลัว เป็นครั้งแรก
ร่างของเขา ที่เต็มไปด้วย พลังด้านมืด เริ่ม สั่นไหว
‘ความรัก’ และ ‘ความเสียสละ’ ที่ ธาร ส่งผ่าน ‘AZURA’ ออกไป
กำลัง ‘ชำระล้าง’ ความมืดมิด ใน จิตใจ ของ อัครา…
ภาพ ในอดีต ของ อัครา ผุดขึ้นมาใน ห้วงความคิด
เขา เคยเป็น ‘แพทย์’ ที่ ‘อุทิศตน’ เพื่อ ช่วยเหลือ ผู้คน
เขา เคยมี ‘ความฝัน’ ที่ จะ สร้าง ‘โลกที่สวยงาม’
แต่... ‘ความทะเยอทะยาน’ กลับ ‘บิดเบือน’ จิตใจ ของเขา จน ‘หลงทาง’
“ข้า... ทำอะไรลงไป...”
น้ำตา ไหลริน ออกมาจาก ดวงตา ของ อัครา
เขา ‘สำนึกผิด’ แล้ว...
ธาร ยื่นมือออกไปหา อัครา
“ยังไม่สายเกินไป... ที่จะ ‘เริ่มต้นใหม่’”
อัครา มองมือของ ธาร สั่นเทา ด้วย ความ ลังเล
ก่อนจะ ค่อยๆ ยื่นมือ ออกไป ตอบรับ...
พลังด้านมืด สลายหายไป จนหมดสิ้น
ร่างของ อัครา กลับคืนสู่ สภาพเดิม เป็น ชายวัยกลางคน ธรรมดา
เขา ทรุดตัวลง คุกเข่า ต่อหน้า ธาร ด้วยความ สำนึกผิด
“ข้า... ขอโทษ...”
ธาร ส่ายหน้า “ทุกอย่าง ผ่านไปแล้ว...”
แสงสีฟ้า อบอุ่น แผ่ออกมาจาก ร่าง ของ ธาร โอบกอด อัครา ไว้
‘AZURA’ กำลัง ‘เยียวยา’ บาดแผล ใน จิตใจ ของเขา...
ในที่สุด ‘สงคราม’ ระหว่าง ‘ความมืด’ และ ‘แสงสว่าง’ ก็จบลง...
ด้วย ‘ชัยชนะ’ ของ ‘ความรัก’...
[ จบบริบูรณ์ ]
..................................
พลง อัศจรรย์แห่งรัก (AURA)
.
(เสียงผู้ชายร้อง)
ในความมืดมิด ยังมีแสงส่องมา
แม้กายอ่อนล้า แต่ใจยังศรัทธา
เพื่อคนรักษา แม้ต้องแลกด้วยลมปราณ
สัญญา...จะไม่หวั่น จะฝ่าฟันทุกเส้นทาง
.
(เสียงผู้หญิงร้อง)
อย่าเลยคนดี อย่าทำเพื่อฉันเลย
กลัวเหลือเกิน ถ้าเธอต้องเจ็บช้ำ
น้ำตา ที่รินหลั่ง ไม่อาจทานความรักเรา
ขอเพียง เคียงข้างกัน จนกว่าฟ้าดินสลาย
.
(ร้องประสานเสียง)
อัศจรรย์แห่งรัก พลังที่ยิ่งใหญ่
ส่องประกาย ในใจ ไม่จางหาย
'AZURA' คือ ความหวัง คือ รัก ที่ยิ่งใหญ่
แม้ตัวจะสลาย แต่หัวใจ ไม่ ยอมแพ้
.

ความมืด เข้าปกคลุม แต่ใจ ไม่ หวั่นไหว
พลังแห่งรัก จะนำทาง ให้ก้าวไป
(เสียงผู้หญิงร้อง)
เชื่อมั่น ในรักเรา สองใจ เป็นหนึ่งเดียว
'AZURA' จะอยู่ เคียงข้าง เรา เสมอ
(ดนตรี)
.
(ร้องประสานเสียง)
อัศจรรย์แห่งรัก พลังที่ยิ่งใหญ่
ส่องประกาย ในใจ ไม่จางหาย
'AZURA' คือ ความหวัง คือ รัก ที่ยิ่งใหญ่
แม้ตัวจะสลาย แต่หัวใจ ไม่ ยอมแพ้
.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น